เจค็อบ เวห์น จอห์น คีน (Jacob Wayne John Keen) ชายชาวออสเตรเลียในวัย 24 ปี ถูกจับในข้อหาพัฒนาและขายไวรัส Trojan ที่ชื่อ Imminent Monitor ให้กับบรรดาอาชญากรไซเบอร์ในมากกว่า 128 ประเทศ มาตั้งแต่อายุ 15 ปี
Imminent Monitor มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์ของเหยื่อจากระยะไกลเพื่อสอดแนมเหยื่อทางกล้องและไมโครโฟนที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ของเหยื่อ จารกรรมข้อมูลส่วนบุคคล เปิดไฟล์เอกสาร และติดตามตัวเหยื่อ
ไวรัสที่คีนพัฒนาขึ้นนี้ ถูกนำไปใช้ในการสอดแนมเหยื่อเรือนหมื่นรายทั่วโลก ผู้ซื้อมากกว่า 200 รายอยู่ในออสเตรเลีย ในจำนวนนี้ เป็นผู้มีประวัติในการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว หลักฐานยังชี้ให้เห็นด้วยว่าเงินที่ได้จากการใช้ Imminent Monitor ส่วนใหญ่ถูกนำไปซื้ออาหารแบบกลับบ้าน
คีนทำเงินได้มากถึง 300,000 เหรียญ (ราว 10.8 ล้านบาท) โดยจากข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ คีนเริ่มขาย Imminent Monitor มาตั้งแต่อายุ 15 ให้แก่ผู้ใช้รายละ 35 เหรียญ (ราว 1,260 บาท) ในขณะอาศัยอยู่ในบ้านเช่ากับมารดา ก่อนจะยุติการให้บริการลงในปี 2019 หลังจากที่สำนักงานตำรวจออสเตรเลีย (AFP) เข้าตรวจยึดฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการพัฒนา Trojan
สำหรับการจับกุมตัวคีน เกิดจากการที่ AFP ร่วมกับสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (FBI) และ Palo Alto Networks รวมถึงหน่วยบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก ในการปฏิบัติการล่อซื้อในชื่อ Operation Cephus ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2017
ผลก็คือคีนมีความผิดใน 6 ข้อหาและต้องขึ้นศาลภายในเดือนสิงหาคมนี้ ยิ่งไปกว่านั้น แม่ของคีนก็มีความผิดในฐานะที่มีส่วนรู้เห็นและได้รับประโยชน์การกระทำผิดของบุตรชายด้วย
ที่มา TechSpot
Comments